พยาธิเม็ดเลือดตัวร้าย ตอนที่ 2

เรื่อง: สพ.ญ.ศราวลี ศุภกาญจน์

“หมอคะ น้องหมาที่บ้านซึม ไม่กินข้าวเลย เจอเห็บด้วยแบบนี้น้องจะเป็นพยาธิเม็ดเลือดไหมคะ?”

หลังจากอ่านบทความพยาธิเม็ดเลือดตัวร้ายครั้งที่แล้วไป หลายท่านอาจจะเกิดคำถามแบบด้านบนใช่ไหมคะ วันนี้พยาธิเม็ดเลือดตัวร้าย ตอนที่ 2 จะพาทุกๆ ท่านไปหาคำตอบพร้อมๆ กันค่ะ ว่าเราจะรู้ได้อย่างไรว่าน้องหมาน้องแมวที่บ้านกำลังป่วยด้วยโรคพยาธิเม็ดเลือดอยู่ไหม

ถ้าเจ้าของทุกท่านสังเกตุเห็นอาการผิดปกติ “ซึม ไม่กินอาหาร” ร่วมกับการเจอหรือเคยเจอเห็บในบ้านหรือบนตัวน้องหมาน้องแมว ทำให้สงสัยได้ว่าสาเหตุของการเจ็บป่วยครั้งนี้มาจากพยาธิเม็ดเลือดตัวร้าย หรืออาจจะเป็นความเจ็บป่วยจากโรคอื่นๆ ก็เป็นไปได้ เจ้าของจึงควรพาสัตว์ป่วยมาพบคุณหมอที่โรงพยาบาลสัตว์เพื่อรับการวินิจฉัยที่ถูกต้องอย่างทันท่วงที

เมื่อมาถึงโรงพยาบาลสัตว์ สัตวแพทย์จะทำการตรวจร่างกายเบื้องต้นอย่างละเอียด พร้อมสอบถามประวัติและอาการป่วยต่างๆ จากเจ้าของ และสิ่งที่จำเป็นสำหรับการตรวจพยาธิเม็ดเลือดนั่นคือ การเก็บตัวอย่างเลือดน้องหมาน้องแมวไปตรวจ ตัวอย่างที่ได้มานี้จะถูกนำมาตรวจหาพยาธิเม็ดเลือด รวมถึงการตรวจดูความสมบูรณ์ของเม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว เกล็ดเลือด ค่าความสามารถในการทำงานของตับและไต ซึ่งอาจพบว่าเกิดความเสียหายจากการติดพยาธิเม็ดเลือดได้ สัตวแพทย์จะใช้ผลตรวจทุกอย่างประกอบกันเพื่อวินิจฉัยสุดท้ายว่าอาการป่วยนั้นๆ มีสาเหตุมาจากพยาธิเม็ดเลือดหรือไม่ค่ะ

การตรวจหาพยาธิเม็ดเลือดแบ่งได้เป็น 3 วิธี คือ 1.การหาตัวพยาธิเม็ดเลือดที่อยู่ในเลือดโดยตรงผ่านการส่องกล้องจุลทรรศน์ 2.การตรวจเพื่อหาแอนติบอดี้ (Antibody) ต่อเชื้อพยาธิเม็ดเลือดด้วยชุดทดสอบ ซึ่งร่างกายจะสร้างแอนติบอดี้เพื่อต่อสู้กับเชื้อพยาธิเม็ดเลือดที่ติดเข้ามา และ 3.การตรวจหาสารพันธุกรรม (DNA) ด้วยวิธี PCR โดยการตรวจหาแอนติบอดี้ด้วยชุดทดสอบเป็นวิธีที่มีความไว (Sensitivity) และความจำเพาะ (Specificity) สูง ใช้เวลาในการรอผลทดสอบไม่เกินครึ่งชั่วโมง แต่ในการติดเชื้อระยะแรกร่างกายสัตว์อาจจะยังสร้างแอนติบอดี้ได้น้อยเกินกว่าจะตรวจพบด้วยชุดทดสอบ จึงต้องใช้การตรวจหาตัวพยาธิเม็ดเลือดจากการส่องกล้องจุลทรรศน์ หรือการตรวจหาสารพันธุกรรมด้วยการทำ PCR เข้ามาช่วยในการยืนยันผลตรวจอีกทางหนึ่ง

โรงพยาบาลสัตว์จัสโก้รัชดาของเราเองก็สามารถรองรับการตรวจหาพยาธิเม็ดเลือดได้ทั้ง 3 วิธี เพราะการวินิจฉัยที่ถูกต้องและรวดเร็วจะนำมาสู่การรักษาที่ถูกต้อง เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นของสัตว์ป่วยทุกตัวค่ะ หากพบอาการผิดปกติ หรือมีข้อสงสัยใดๆ สามารถติดต่อโรงพยาบาลสัตว์จัสโก้รัชดาได้ทุกช่องทางการสื่อสารนะคะ