เรื่อง: น.สพ.ณัฐพงศ์ ไกรว่อง (คุณหมอณัฐ)
ช่วงนี้เป็นฤดูฝนกันแล้วนะคะ หลายๆพื้นที่ของประเทศไทย ทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลก็มีฝนตกค่อนข้างหนาแน่น ส่งผลต่อทุกท่านไม่มากก็น้อยเลยทีเดียว สำหรับท่านที่มีสัตว์เลี้ยง ไม่ว่าจะเป็นสุนัขหรือแมว ก็อาจจะพบปัญหาต่าง ๆ ของน้อง ๆ ที่เริ่มปรากฏให้เห็นในช่วงหน้าฝนได้ วันนี้แอดมินจะมาแนะนำว่าเราจะดูแล และสังเกตปัญหาต่าง ๆของสัตว์เลี้ยงของเราในช่วงหน้าฝนได้อย่างไรบ้างค่ะ
สำหรับสุนัขหรือแมวที่เลี้ยงกึ่งปล่อยอยู่ภายนอกบ้าน ก็จะมีโอกาสสัมผัสกับความเปียกชื้นจากฝน อาจจะพบว่าขนหรือผิวหนังของน้องๆ จะเปียกอับชื้นได้บ่อย ๆ และส่งผลให้เกิดการอักเสบ ติดเชื้อของผิวหนังตามมาได้ เจ้าของอาจจะพบว่ามีตุ่มอักเสบตามตัว มีกลิ่นตัว หรือมีอาการคันแสดงให้เห็น เจ้าของสามารถอาบน้ำทำความสะอาดด้วยแชมพู และไดร์เป่าขนให้แห้ง รวมถึงหวีขนไม่ให้พันกัน เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวหนังและเส้นขนเปียกอับชื้น ซึ่งสามารถอาบเองได้ที่บ้าน หรือจะใช้บริการร้านอาบน้ำตัดแต่งขนก็ได้ค่ะ เช่นเดียวกับเรื่องขนและผิวหนัง อุ้งเท้าของน้อง ๆ ก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่จะมีปัญหาได้มากในยามฤดูฝน สุนัขหรือแมวพันธุ์ที่มีขนตรงบริเวณอุ้งเท้ายาว ก็จะพบกับลักษณะที่อุ้งเท้ามีอาการเปียกอับชื้น ตามมาด้วยการอักเสบ มีกลิ่นๆ น้องๆก็จะคัน เกา หรือกัดแทะอุ้งเท้าจนเกิดปัญหาได้ เบื้องต้นควรหมั่นดูแลให้อุ้งเท้าแห้ง เช่นอาจจะต้องเช็ดอุ้งเท้าให้แห้งดีหลังจากที่ปล่อยน้องเดินในสวนหรือ เล็มขนบรเวณอุ้งเท้าให้สั้นลง ก็จะป้องกันอาการที่ว่ามาได้ค่ะ อย่างไรก็ดี แอดมินว่า ถ้าอาการหรือความผิดปกติของน้องเริ่มมีมากขึ้น ก็ควรนำมาพบสัตวแพทย์ค่ะ
แมลง สัตว์มีพิษ และปรสิตภายนอก เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่จะพบได้ และควรระมัดระวังในหน้าฝนค่ะ เห็บและหมัดที่เป็นพาหะนำโรคร้ายทั้งในสุนัขและแมวของเราก็จะพบได้มากขึ้นทั้งบนตัวของสัตว์เลี้ยงเอง และในสิ่งแวดล้อมรอบ ๆบ้านในหน้าฝนค่ะ การป้องกันด้วยผลิตภัณฑ์ป้องกันปาราสิตภายนอกอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นสิ่งที่ควรทำและไม่ควรหลงลืมสำหรับลูกๆของเราค่ะ นอกจากนี้ยังรวมไปถึงแมลงและสัตว์มีพิษต่างๆ ที่สัตว์เลี้ยงของท่านอาจจะไปพบเจอโดยบังเอิญได้ในหน้าฝน ไม่ว่าจะเป็นตะขาบ คางคก หรืองูพิษ ซึ่งอาการความผิดปกติที่พบ อาจมีตั้งแต่อาการแพ้บวมแดง หรือมีความรุนแรงมากขึ้น ในกรณีที่เป็นการสัมผัส หรือกินสัตว์มีพิษเหล่านี้เข้าไป ไม่ว่าจะเป็นอาการอาเจียน น้ำลายไหลมาก หรือหน้าบวมรุนแรง
โดยเฉพาะกรณีของงูพิษ ซึ่งแบ่งออกได้เป็นงูพิษที่ก่อพิษต่อระบบประสาท(กลุ่มของงูเห่า งูจงอาง งูสามเหลี่ยม งูทับสมิงคลา) โดยจะส่งผลให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงเป็นอัมพาต ส่งผลให้การหายใจล้มเหลวและเสียชีวิตได้ และงูพิษที่ก่อพิษต่อระบบเลือด(กลุ่มของงูเขียวหางไหม้ งูแมวเซา งูกะปะ) ซึ่งจะส่งผลต่อขัดขวางระบบการแข็งตัวของเลือด และทำให้เลือดไหลไม่หยุด หรือมีจุดปื้นเลือดออกตามตัว และเป็นอันตรายต่อชีวิตได้ค่ะ ในกรณีที่ร้ายแรงเช่นนี้ แอดมินแนะนำให้เจ้าของนำน้อง ๆที่สงสัยว่ามีอาการมาพบสัตวแพทย์โดยด่วนเลยค่ะ โดยอาจจะมีข้อมูลของสัตวมีพิษเหล่านั้นมาประกอบด้วย ก็จะมีประโยชน์ต่อสัตวแพทย์ในการตรวจวินิจฉัยและให้การรักษามากขึ้นด้วยค่ะ
มีโรคหลายๆโรคที่พบได้ในสัตว์เลี้ยงของเราในช่วงหน้าฝน ไม่ว่าจะเป็นโรคของระบบทางเดินหายใจ น้องๆอาจจะมีอาการตั้งแต่ไอจาม มีน้ำมูกเป็นไข้หวัด ไปจนถึงมีอาการหอบหายใจในกรณีที่มีการหายใจลำบากได้ทำให้เป็นหลอดลมอักเสบ หรือโรคพยาธิในเม็ดเลือดที่มีเห็บเป็นพาหะ โรคพยาธิหนอนหัวใจที่มียุงเป็นพาหะ เมื่อหน้าฝนมีเห็บและยุงมากขึ้น น้องๆก็จะมีความเสี่ยงต่อโรคนี้มากขึ้นเช่นเดียวกันค่ะ โรคผิวหนังเช่นติดเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา มีกลิ่นตัว คัน และผื่นแดง โรคฉี่หนู(Leptospirosis)ที่มีหนูเป็นพาหะนำโรค และอาจจะพบในลักษณะที่สัตว์เลี้ยงอยู่ในบริเวณชื้นแฉะมีน้ำขัง การป้องกัน หมั่นสังเกตอาการ หรือการนำน้องไปตรวจเลือดเช็คสุขภาพอย่างสม่ำเสมอก็จะช่วยคัดกรองโรคตรงนี้ได้ระดับหนึ่งค่ะ เพราะฉะนั้นการให้วัคซีนป้องกันโรคตามโปรแกรม การป้องกันแมลงและปรสิตพาหะนำโรค และการถ่ายพยาธิจึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ค่ะ
นอกจากนี้แล้ว การจัดการอาหารก็เป็นสิ่งจำเป็น ในฤดูฝน เราอาจจะไม่ได้พาน้องๆออกไปออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมได้บ่อยตามปกติจากปัญหาที่กล่าวมา เมื่อกิจกรรมน้อยลงก็จะส่งผลให้อ้วนขึ้นได้ การเลือกให้อาหารชนิดที่มีไฟเบอร์สูงและพลังงานลดลงก็จะเข้ามาช่วยตรงจุดนี้ได้ รวมไปถึงเจ้าของอาจจะเปลี่ยนมาทำกิจกรรมภายในบ้าน หรือภายในร่มแทนเพื่อให้สัตว์เลี้ยงได้มีการออกกำลังกายใช้พลังงานและมีกิจวัตรตามปกติที่ควรจะเป็น นอกจากนี้การจัดเตรียมน้ำดื่มที่สะอาดให้เพียงพอก็จะลดปัญหาทางเดินอาหารอันเนื่องมาจากสัตว์เลี้ยงไปกินน้ำที่ไม่สะอาดสกปรกที่อาจเกิดขึ้นตามมาในหน้าฝนได้อีกทางหนึ่งค่ะ
หน้าฝนเข้ามาแล้ว สักพักก็จะผ่านไปนะคะ แต่แอดมินเชื่อว่าการดูแลและเอาใจใส่ที่ดีต่อสัตว์เลี้ยง และน้องๆทุกตัวของเรา ก็จะยิ่งทำให้เค้ามีสุขภาพที่ดีและอยู่กับเราไปได้อีกหลายๆฤดูฝนเลยค่ะ